อาการ “ปวดไหล่” เป็นหนึ่งในอาการยอดฮิตที่เกิดได้กับทุกวัย ตั้งแต่คนทำงานออฟฟิศ นักกีฬา จนถึงผู้สูงอายุ หลายคนเริ่มต้นจากความตึงเมื่อยเพียงเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้นานอาจลุกลามเป็นอาการปวดเรื้อรัง ยกแขนไม่สุด หันคอแล้วเจ็บ หรือแม้กระทั่งร้าวลงแขนจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น นั่งทำงานนาน ๆ ไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้เหมือนเดิม หรือปวดจนรบกวนการนอน
อาการปวดไหล่มีสาเหตุหลากหลาย ทั้งจากกล้ามเนื้อตึงสะสม การอักเสบของเส้นเอ็น ไปจนถึงปัญหาหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ซึ่งแต่ละสาเหตุจำเป็นต้องได้รับการประเมินให้ถูกต้องเพื่อเลือกแนวทางรักษาที่ตรงจุด ดังนั้น “การรู้ต้นตอที่แท้จริง” จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้ปวดเรื้อรังในระยะยาว
และเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด การรับการประเมินและฟื้นฟูกล้ามเนื้อโดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดที่ Piraya Clinic จะช่วยตรวจหาจุดปัญหาอย่างละเอียด พร้อมเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับอาการของแต่ละบุคคล ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ไว ปลอดภัย และกลับมาใช้งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
อาการปวดไหล่คืออะไร ?
เป็นอาการเจ็บ ตึง ชา หรือร้าวที่บริเวณหัวไหล่ สะบัก คอ หรือแขน ซึ่งอาจเกิดจากโครงสร้างหลายส่วน เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อไหล่ ข้อต่อ หรือเส้นประสาท จึงต้องประเมินตามสาเหตุ
สาเหตุของอาการปวดไหล่
สาเหตุที่มักพบได้บ่อย
- กล้ามเนื้อบ่า คอ ตึงสะสม
เกิดจากนั่งนาน นั่งหลังค่อม คอยื่น ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักจนปวดตึง - เส้นเอ็นไหล่อักเสบ (Tendinitis)
มักเกิดจากใช้งานแขนซ้ำ ๆ เช่น ยกของ ซ้อมกีฬา ว่ายน้ำ เล่นฟิตเนส จนเส้นเอ็นรอบข้อไหล่อักเสบ - ข้อไหล่เสื่อม หรือภาวะไหล่ติด (Frozen Shoulder)
มักพบในอายุ 40+ หรือคนไม่ค่อยขยับแขน ทำให้ข้อไหล่ฝืด ยกแขนลำบาก ปวดมากโดยเฉพาะตอนกลางคืน - หมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท
ปวดคอร้าวลงไหล่–แขน ชา หรือรู้สึกเหมือนไหล่อ่อนแรง เกิดจากหมอนรองกระดูกเสื่อม ก้มมือถือมากเกินไป หรืออุบัติเหตุ
อาการที่พบบ่อยและสัญญาณอันตราย
อาการที่พบได้บ่อย
- ปวดเมื่อยไหล่ บ่า คอ
- ยกแขนสุดไม่ได้
- ปวดร้าวลงแขนหรือสะบัก
- ปวดตอนกดหรืองอไหล่
- เจ็บมากเวลาเอื้อมของหรือหมุนไหล่
สัญญาณอันตรายที่ควรพบแพทย์ทันที
- ปวดรุนแรงมากจนยกแขนไม่ได้
- ชา อ่อนแรง มือไม่มีแรง
- ไหล่บวม แดง ร้อน
- ปวดเรื้อรังกว่า 2-4 สัปดาห์ไม่ดีขึ้น
- ประวัติล้ม อุบัติเหตุ หรือได้ยินเสียง “ดังแป๊ะ” ก่อนเริ่มปวด
วิธีบรรเทาปวดไหล่เบื้องต้น
- ประคบอุ่น 15–20 นาที ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
- ยืดเหยียดคอ–ไหล่วันละ 5–10 นาที
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- ปรับโต๊ะ เก้าอี้ให้เหมาะสม
- กินยาแก้อักเสบตามคำแนะนำของแพทย์ (ถ้าปวดมาก)
- พักการใช้งานแขนที่ทำให้ปวด
ปรับท่าทางและไลฟ์สไตล์เพื่อป้องกันปวดไหล่
- นั่งหลังตรง ไหล่ผาย คอไม่ยื่นไปด้านหน้า
- ปรับหน้าจอคอมให้อยู่ระดับสายตา
- เปลี่ยนท่านั่งทุก 30–45 นาที
- ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อบ่า–สะบัก
- หลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว
- ลดการก้มเล่นมือถือเป็นเวลานาน
การรักษาอาการปวดแบบแพทย์และกายภาพบำบัด
- ตรวจประเมินเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
- กายภาพบำบัด: คลายกล้ามเนื้อ ยืดเหยียด ปรับสมดุลข้อไหล่
- คลื่นกระแทก (Shockwave) สำหรับเส้นเอ็นอักเสบ
- คลื่นเสียงความถี่สูงที่ช่วยลดอาการปวดและอักเสบ Ultrasound
- ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวสำหรับผู้ที่มีภาวะไหล่ติด
- ปรับโปรแกรมการออกกำลังกายให้เหมาะกับอาการ
ทำความรู้จักเทคโนโลยีการรักษา Shockwave เพิ่มเติม คลิก
ทำความรู้จักเทคโนโลยีการรักษา Ultrasound เพิ่มเติม คลิก
บทสรุป
อาการปวดไหล่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่กล้ามเนื้อตึงเล็กน้อยจนถึงเส้นเอ็นอักเสบ หรือปัญหาเส้นประสาทจากคอ การสังเกตอาการและรักษาให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นช่วยป้องกันการเรื้อรังได้ดีที่สุด หากปวดบ่อย ยกแขนไม่สุด หรือมีอาการร้าวลงแขน ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์หรือนักกายภาพเพื่อรับการรักษาที่ตรงจุด และฟื้นตัวกลับมาใช้งานได้ตามปกติเร็วขึ้น
เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด การเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดที่ Piraya Clinic เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้อาการบาดเจ็บหายหรือทุเลาลงได้อย่างปลอดภัยและเป็นระบบ โดยมี นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยประเมิน วิเคราะห์ และออกแบบโปรแกรมบำบัดเฉพาะบุคคลให้เหมาะกับสภาพกล้ามเนื้อของแต่ละคน ช่วยให้คุณฟื้นตัวได้ไวขึ้นและลดโอกาสเกิดอาการซ้ำในอนาคต
โปรโมชัน (Promotion)
โปรโมชัน กายภาพบำบัด ที่ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ลดปัญหาสุขภาพที่ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปวดคอ บ่า ไหล่ หรืออาการตึงกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานท่าเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน โดยนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ เพียง 1,990 บาท
หากต้องการปรึกษานักกายภาพบำบัดฟรี สามารถจองคิวได้ที่ LINE : @pirayaclinic
โทรสอบถาม / จองคิวด่วน โทร. 096-4464798






